ไม่นานมานี้ที่สหรัฐอเมริกา Facebook เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้คู่รักจับได้ว่า แฟนที่เรารักนักรักหนาแอบคบหากิ๊ก ถึงขั้นเป็นเอกสารที่ทำให้การฟ้องหย่าสำเร็จมาแล้วหลายคู่
เพราะ Facebook มัดแน่นจนเถียงไม่ออก บางคนอยากพิสูจน์ความซื่อสัตย์ของแฟนว่าจะใสซื่อเหมือนหน้าตาหรือเปล่า ปลอมตัวดีกว่าเป็นหญิงสาวแบ๊วใส ไวต่อความรู้สึก หลงทางเข้ามา Chat กับแฟนตัวเอง เพื่อลองใจทั้ง ๆ ที่ใกล้จะแต่งงานกันอยู่แล้วเชียว กะเล่นขำ ๆ คุย ๆ ไปคุยมาเลยลองถามคุณผู้ชายว่ามีแฟนหรือยัง ผู้ชายใกล้หมดวาระโสดเลยขอกระโดดโลดเต้นระยะสุดท้าย ตอบเสียงใส ๆ ยังไม่มีเลยจ้ะ ขอเบอร์หน่อยได้หรือเปล่า!!! หญิงสาวหน้าร้อนฉ่า ว่าที่สามีกำลังจะตีสนิทกับสาวทาง Chat ที่เขาไม่นึกว่าเป็นเราแกล้งให้เบอร์โทรที่เขาคงไม่คุ้น นัดแนะกันเรียบร้อยว่า 4 ทุ่ม คืนนี้จะโทรมา
พอ Log out ก็นั่งเศร้าล่ะทีนี้ เธอกำลังจะนอกใจหรือแค่หาเบี้ยใบ้รายทาง ถ้าเธอโทรมาจะบอกกับเธอว่าอะไร เล่นบทเด็กหน้าใสไปจนกว่าเธอจะแพ้ภัยตัวเองหรือสารภาพซะ ยอมรับกันไปตรง ๆ ว่า ฉันหลอกเธอเพื่อไปเจอว่าเธอพร้อมจะหลอกฉันตลอดเวลา ไม่รู้ว่าตอนนี้พิธีแต่งงานจะเดินหน้าหรือว่าควรหยุดไว้แค่นี้ เป็นแฟนกันยังหลอกได้หลอกดี ตอนเป็นสามี ยิ่งไม่รู้ว่าประโยคไหนดีที่ควรเชื่อเธอ
แต่ยังไงก็อย่าเพิ่งคิดว่าโลกออนไลน์เป็นสาเหตุแห่งหายนะอย่างเดียว หลายคนตามหาคนที่ใช่ เจอกันจนได้ใน Facebook บางคน Chat ไป Chat มา รู้ใจก่อนรู้จักหน้า ที่สมหวังกันมาก็เยอะ ประเภทคุยกันขำ ๆ ทำให้ช้ำซ้ำ ๆ ซาก ๆ ก็มีให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ
ตอนนี้ถ้าใครเริ่มรู้สึกว่าออนไลน์ทีไร นึกถึงหน้าใครคนหนึ่งทุกที หัวใจเต้นถี่ ๆ เวลาเห็นเธอออนไลน์ น้อยใจน้ำตาไหลที่เห็นเขาออนไลน์แต่ไม่เห็นทักทายกัน แปลว่าเราเริ่มหลงใหลใครบางคนบนโลกไซเบอร์ซะแล้ว ลองมาหาวิธีที่ช่วยตัดสินใจให้รู้กันไปว่า คนบางคนเราควรกดปุ่ม Enter หรือปล่อยให้มันเบลอ ๆ จนค่อย ๆ Delete ตัวเองไปในที่สุด
1. แค่อยากมีเพื่อนนะ ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาหากิ๊ก
คุยกับตัวเองดี ๆ ก่อน การคุยกับเพื่อนใหม่ ๆ เหมือนการหาอะไรใส่ชีวิต แต่ถ้าตั้งหน้าตั้งตาหากิ๊ก วิธีคิด วิธีคุยเราจะเปลี่ยน อีกฝ่ายอาจรู้สึกเลี่ยน ๆ คล้าย ๆ จะโดนปล้ำทางตัวหนังสืออยู่ตลอดเวลา เอะอะคุยเรื่องอนาคต ยัง!!! บอกกับตัวเองดัง ๆ ก็แค่หาเพื่อนใหม่ อนาคตจะเป็นยังไงก็ช่าง อย่างน้อยตอนนี้ขอให้มีความสุขที่ได้คุยกัน
2. รู้หน้าไม่รู้ใจ
เห็นแค่ตัวหนังสืออย่าไปถือจริงจัง บางคนรู้สึกเป็นปัญหา ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ใช่ปัญหา “พี่อ้อยคะ เค้าชอบบอกว่าคิดถึง หนูเลยสับสนว่าจะเริ่มต้นกันยังไงดี” คิดถึงเป็นคำสามัญที่ใช้กันอย่างธรรมดาน้อง อย่าคิดมากกับเรื่องเล็ก คนเรารู้สึกดีต่อใคร ก็พร้อมจะใส่คะแนนบวกให้เขาตลอดเวลา
3. อย่าออกตัวแรงกว่า คิดถึง 5 บอกซะ 3
เจอคนดีก็ดีไป เจอคนร้าย เขาจะยิ่งนึกสนุกในการปั่นหัว เพ้อทุกครั้งที่คุยกัน รู้สึกขาดเขาไม่ได้ มีอะไรพูดหมด บางคนแค่สนุกต่อการเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น
4. หาข้อมูลเพิ่มเติมเสริมความมั่นใจ
ยิ่งเป็น Facebook ยิ่งง่าย เขามีเพื่อนเป็นใครบ้าง ลองคลิก ๆ เข้าไปดูทั่ว ๆ รูปที่เขาหรือเพื่อนเขาเอามาแปะน่ะ ประมาณไหน กอดคอถึงเนื้อถึงตัวไปทั่ว หรือวางตัวดีน่ารักประวัติไม่ด่างพร้อย
5. กระชับพื้นที่อีกนิด
ถ้ารู้สึกติดใจ อย่ามัวแต่คุยกันทาง MSN ฝัน ๆ เพ้อ ๆ กับตัวหนังสือ อินเทอร์เน็ตคือจุดเริ่มต้นที่คนมาเจอกัน แต่ถ้าจะคบกัน จงคบกันแบบความสัมพันธ์ปกติ ลองโทรคุย แล้วค่อยขยับมาเจอกัน แต่ขอให้เจอกันในระยะปลอดภัย อย่านัดทีไร ดูเสี่ยงภัยตลอด รู้ว่าชีวิตวัน ๆ ไม่ค่อยมีอะไรลุ้น แต่ลุ้นเรื่องนี้บางทีได้ไม่คุ้มเสีย...เพื่อนพ้องพี่น้องช่วยตามมาประกบในวันนัดพบวันแรก
6. ทำหลักฐานเพื่อยืนยันความสัมพันธ์
เจอกัน คบกัน คุยกัน ถ่ายรูปคู่กันไม่มีอะไรเสียหาย ขอเน้นแค่โพสต์ท่าปกติ อย่าถึงขั้น Pre Wedding หรือกอดจริงจูบจริงไม่ต้องใช้สแตนด์อิน อันนี้ก็เยอะไป เลือกรูปที่ดูเบา ๆ แล้วค่อย ๆ โพสต์ในเว็บของเรา ไม่ได้ต้องการประกาศอะไร แค่ตามหาผู้เสียหายที่อาจปรากฏกายให้เราไม่ต้องนั่งทายว่า เขามีคนอื่นอยู่ก่อนเราหรือเปล่า ทั้งหมดเชื่อในตัวเองและเชื่อในความไม่แน่นอน คุยกันเรียนรู้กันไปแบบเห็นหน้าเห็นตา บางทีรู้หน้ายังไม่รู้ใจนับประสาอะไรกับการกดแป้นพิมพ์ อยากจะพูด อยากจะเป็นอะไร อยากโชว์นิสัยแบบไหน...บางคนคบกันเป็น 10 ปี อยู่ดี ๆ บอกว่าที่ผ่านมา เธอไม่ใช่ แต่พอคบคนใหม่ได้ 2 เดือนกว่า รีบประกาศซะดังว่าคนนี้ล่ะ คนที่ใช่
รักจะอยู่ยาวหรือชั่วคราว ไม่ได้อยู่ที่ว่าเราเจอกันยังไง จะเจอทาง Twitter, Facebook, MSN หรือครอบครัวสนิทกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ไม่ได้เป็นตัวการันตีว่า เจอกันแบบไหนรักจะมั่นคงกว่ากัน เพราะสิ่งที่สำคัญไม่ใช่จุดเริ่มต้น มันอยู่ที่ระหว่างทางต่างหาก ที่มา:http://variety.teenee.com/foodforbrain/29420.html |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น